ทำไมเราถึงต้องสอบสัมภาษณ์
เพราะการสอบสัมภาษณ์ เป็นอีก 1 ด่านที่สำคัญที่จะได้วัดผล ความรู้ความสามารถ ก่อนได้รับการคัดเลือกเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย
คำถามที่มักจะเจอเวลาสอบสัมภาษณ์
ตอบเหตุผลของการเลือก โดยอาจจะสอดคล้องกับสิ่งที่เราชอบ ถนัดและทำได้ดี อาชีพและอนาคตที่อยากทำที่สอดคล้องกับคณะ หรือแรงบันดาลใจ บุคคลต้นแบบที่ทำให้เราอยากเรียนคณะ / สาขาวิชา ยกตัวอย่าง อยากเรียนคณะครุศาสตร์ สาขาแนะแนว เพราะเห็นตัวอย่างจากครูของข้าพเจ้า ที่ได้สอนและแนะนำข้าพเจ้าเป็นอย่างดี ข้าพเจ้าอยากเป็นครูที่ดีแบบครูของข้าพเจ้า
ตอบโดยนำเสนอความสามารถของเราหรือกิจกรรม ผลงานหรือการเข้าร่วมอบรมที่เราเคยทำ ที่มีความเกี่ยวข้องกับคณะและสาขาที่เราสัมภาษณ์ หากไม่มีสามารถนำเสนอกิจกรรมเด่นที่เราทำแล้วภาคภูมิใจได้ ยกตัวอย่าง เช่น สัมภาษณ์เข้าคณะบริหารธุรกิจ เรานำสามารถนำเสนอทักษะการเรียนหรือผลงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหาธุรกิจ เช่น เคยประกวดแผนการทำธุรกิจSME ในโรงเรียน , เคยเข้าร่วมอบรมนักธุรกิจเยาวชน เรียนรู้การทำธุรกิจและการเป็นนักขาย เป็นต้น
เป็นการตอบถึงการทำงาน อาชีพ การศึกษาต่อหรือแผนที่จะทำต่อหลังจากเรียนจบ โดยการนำวิชาความรู้ที่เรียนในคณะ / สาขา ที่เราสัมภาษณ์ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ยกตัวอย่างเช่น หลังจากเรียนจบจากคณะสังคมสงเคราะห์ ข้าพเจ้าจะนำความรู้จากที่เรียนมาไปทำงานที่องค์กรที่ช่วยเหลือดูแลด้านสิทธิมนุษยชนและสตรี
เป็นภาพไกลหลังจากจบการศึกษาและต่อยอดจากทำงาน เช่น ข้าพเจ้ามีเป้าหมายในการมีธุรกิจร้านอาหารเป็นของตัวเอง โดยการเรียนรู้สะสมประสบการณ์จากคณะบริหารธุรกิจ การฝึกงาน และการทำงานในองค์กร
เป็นการเพื่อตอบให้คณะกรรมการมีความมั่นใจว่าเราสามารถร่วมชั้นเรียนได้ ความพิการไม่มีอุปสรรคในการเรียน การตอบเป็นการนำเสนอ บอกอุปกรณ์ที่ช่วยการเรียนของเรา เช่น โน้ตบุ้ค โทรศัพท์มือถือ เครื่องอัดเสียง โปรแกรมอ่านหน้าจอหรือหากนักเรียนมีการสอบถามบริการศูนย์บริการนักศึกษาพิการ (DSS) ของมหาวิทยาลัยที่เราสัมภาษณ์ไว้ล่วงหน้า ก็สามารถนำข้อมูลนี้มาตอบได้ จะทำให้คณะกรรมการเห็นถึงการเตรียมตัวล่วงหน้าของเราได้
เป็นการตอบเพื่อให้คณะกรรมการมีความมั่นใจว่าเราสามารถดูแลตัวเองได้ และมีความพร้อมในการใช้ชีวิตในมหาวิทยาลัย การเรียนร่วมชั้นกับเพื่อนไม่พิการ หรือการอยู่หอพัก สามารถบอกสิ่งที่เราสามารถทำได้และสิ่งที่เราอาจขอความช่วยเหลือบางส่วนเพื่อแจ้งทราบ ยกตัวอย่างเช่น ข้าพเจ้าเป็นนักเรียนหูตึง ใส่เครื่องช่วยฟัง สามารถใช้ชีวิตการเรียนและอยู่ร่วมกับเพื่อนได้ ข้างที่ได้ยินชัดมากกว่าจะเป็นข้างขวา จะแนะนำบอกเพื่อนและคนรอบข้างในการสื่อสารแบบนี้ หรือหากฟังไม่ทันจะบอกให้พูดช้าๆ อีกครั้ง , ข้าพเจ้าเป็นนักเรียนตาบอด สามารถอยู่หอพัก ดูแลตัวเองได้ ใช้ไม้เท้านำทาง ถ้าได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมห้องหรือร่วมชั้นในการบอกทิศทาง เช่น ส่วนต่าง ๆ ของห้องพัก ห้องน้ำ โต๊ะเรียนหรือสิ่งของสำคัญ ข้าพเจ้าจะสามารถเรียนรู้และจดจำเพื่อช่วยเหลือตัวเองได้
เกณฑ์การให้คะเเนนส่วนมากวัดจากอะไรบ้าง
ดูท่านั่ง ว่านั่งหลังตรงไหม คอตั้งตรงหรือไม่ เวลานั่งขากางเกินไปหรือไม่ นั่งนิ่งๆ ไม่ขยับตัวหรือกระดุกกระดิกมากไป ที่สำคัญยิ้มแย้มแจ่มใสไหม
ดูมีความมั่นใจไหมเวลาพูด มีอาการสั่นเกร็งหรือไม่ พูดจาชัดถ้อยชัดคำหรือไม่ ถ้าพูดเสียงเบา อาจจะเป็นไปได้ว่าไม่ค่อยมั่นใจ
ดูจากการตอบคำถามที่เป็นการท้าท้ายความสามารถน้องๆ ว่าสามารถตอบได้ดีไหม แสดงให้เห็นถึงการแก้ปัญหาของตนเองได้ดีหรือไม่
สามารถสื่อสารได้เข้าใจ ชัดเจน พูดชัดถ้อยชัดคำหรือไม่ เสียงดังฟังชัดไหม พูดช้าหรือพูดเร็วเกินไปหรือไม่ (ถ้าพูดติดขัด ให้ลองดูว่าเกิดจากการขาดความสามารถในการพูดหรือเกิดจากความไม่มั่นใจในตัวเอง)
มีข้อมูลของเราที่ชัดเจน ในการนำเสนอตัวตน นำเสนอผลงาน กิจกรรมที่เราเคยทำระหว่างเรียน เชื่อมโยงกับคณะ สาขาวิชาที่เราสัมภาษณ์